หากย้อนกลับไปก่อนปี 2542 นักเรียนที่จบ ม. 6 แล้ว ต้องการเรียนต่อมหาวิทยาลัยได้นั้นมีเพียงทางเดียว คือ สอบเอ็นทรานซ์ ที่เป็นการเปิดสอบปีละครั้ง และสอบพร้อมกันทั่วประเทศ เพราะความรู้สึกของคนในยุคนั้นถ้าสอบเอ็นทรานซ์ติดนี้ ถือเป็นความยิ่งใหญ่ครั้งหนึ่งในชีวิต เพราะเตรียมตัวมาทั้งปีเพื่อการสอบที่มีเพียงปีละครั้ง ติดตามต่อในข่าวสารวงการเกมและด้วยจำนวนที่รับเข้าได้อย่างจำกัด จึงเป็นเรื่องที่แน่นอนว่าต้องมีคนสอบไม่ได้เป็นจำนวนมาก ดังนั้นวันรุ่งขึ้นตามคลื่นวิทยุจะได้ยินเพลงปลอบใจมากมาย โดยเฉพาะเพลงให้กำลังอย่าง อย่ายอมแพ้ ของอ้อม สุนิสา สุขบุญสังข์ หรือเพลงความหมายดีสร้างพลังบวกของพี่เบิร์ด ธงชัย แมคอินไตยที่ชื่อเพลงว่า “เธอผู้ไม่แพ้”

อย่ายอมแพ้ เป็นเพลงที่อยู่ในอัลบั้ม “เราคือลูกแก้ว” ของอ้อม สุนิสา สุขบุญสังข์ ออกจำหน่ายเมื่อปี พ.ศ. 2533 กับค่ายคีตา เรคคอร์ดส ซึ่งเพลงอย่ายอมแพ้นั้นประพันธ์คำร้องและทำนองโดยคุณตู๋ ปิติ ลิ้มเจริญ และเป็นเพลงที่ทำให้อ้อม สุนิสาเป็นที่รู้จักมากขึ้นในกลุ่มวัยรุ่นยุคนั้น
อีกทั้งความหมายของเพลง คือ การให้กำลังใจ ให้มีแรง ให้ก้าวเดินต่อไปข้างหน้าให้ได้ แม้ว่าจะเจออุปสรรคต่างๆ กับท่อนที่บอกว่า “ขออย่ายอมแพ้ อย่าอ่อนแอ แม้จะร้องไห้ จงลุกขึ้นสู้ไป จุดหมายไม่ไกลเกินจริง”
ส่วนเพลง “เธอผู้ไม่แพ้” อยู่ในอัลบั้ม “ธ ธง” ของพี่เบริด์ ธงไชย แมคอินไตย์ ที่ออกจำหน่ายเมื่อปี พ.ศ. 2537 โดยสุรักษ์ สุขเสวีเป็นผู้ประพันธ์คำร้อง ซึ่งเป็นเพลงที่มีเนื้อหาที่ให้กำลังใจสร้างความหวัง เพิ่มพลังบวกให้กับชีวิตเป็นอย่างมาก อีกทั้งยังมาพร้อมกับดนตรีประกอบที่มีให้ความรู้สึกถึงความหวัง
อย่ายอมแพ้ เป็นเพลงที่อยู่ในอัลบั้ม “เราคือลูกแก้ว” ของอ้อม สุนิสา สุขบุญสังข์

ถึงพลังอันยิ่งใหญ่ และทุกครั้งที่เพลง “เธอผู้ไม่แพ้” ขึ้นเวทีคอนเสิร์ตจะมาพร้อมกับภาษามือ เพื่อจะสื่อสารกับผู้พิการทางการได้ยิน ให้มีกำลังใจ ให้มีความหวัง และก้าวไปให้ถึงความฝันของตัวเองให้ได้ โดยเฉพาะช่วงที่มีเนื้อร้องว่า “และในวันนี้ เธอนั้นจงหยัดยืน และลุกขึ้นอีกครั้ง ด้วยพลังในหัวใจ อย่าไปยอมแพ้ ให้กับปัญหาใดๆ จงพร้อมจะอดทน ก้าวไปสู่หนทางที่ฝันใฝ่ด้วยตัวเอง” ที่จะมาพร้อมกับเสียงดนตรีที่ทรงพลังและที่จะสร้างพลังให้กับคนฟังได้เป็นอย่างดี